หน้าหลัก > สาระน่ารู้วันนี้ > สรุป 6 พฤติกรรมที่ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุน
สรุป 6 พฤติกรรมที่ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุน
สรุป 6 พฤติกรรมที่ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุน
08 Nov, 2023 / By finrwealthbuilder
Images/Blog/bi9SlwGr-LINE_ALBUM_เว็บ_240212_18.jpg

   พฤติกรรมการเงิน ( Behavior Finance ) เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากความลำเอียงหรืออารมณ์ ในการตัดสินใจโดยไม่มีเหตุผล พยายามจับจังหวะตลาดลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้ และไม่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ซึ่งวันนี้ FinR WealthBuilder จะมาสรุป 6 พฤติกรรมที่ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุน และจะมีวิธีการแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ได้อย่างไร

 1. Confirmation Bias : มองหาสิ่งยืนยันความเชื่อของตัวเอง

เป็นพฤติกรรมที่พวกเขาจะพยายามหาข้อมูล ข่าว และบทวิเคราะห์ต่าง ๆ มาเพื่อสนับสนุนหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เขาถืออยู่ว่าตอนนี้มันดี และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น แม้ว่าในความจริงนั้นราคากำลังลดลงอยู่ ซึ่งการแก้พฤติกรรมแบบนี้สามารถทำได้โดยการมองหาผู้เชี่ยวชาญการลงทุน หรือ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่มีทักษะ ประสบการณ์ และเราไว้ใจเขา มาให้คำแนะนำหรือศึกษาการลงทุนจากพวกเขา

 2. Recency Bias : เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะเกิดขึ้นในอนาคต

เป็นพฤติกรรมที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อจิตใจมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น เมื่อเราลงทุนในตลาดหุ้น แล้วตลาดขึ้น จึงส่งผลทำให้เกิดการคิดไปเองว่าราคาหุ้นมันจะสูงขึ้นอีก เลยตัดสินใจที่จะซื้อหุ้นเพิ่ม แต่ในขณะเดียวกันนั้นถ้าตลาดลง นักลงทุนเชื่อว่ามันจะลงอีกเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจขายก่อน

 3. Overconfidence : มั่นใจมากเกินไป

เป็นพฤติกรรมที่มักจะประเมินความสามารถความรู้และคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของตนเองสูงเกินไปจนลืมประเมินความเสี่ยงและจัดบริหารความเสี่ยงที่ไม่คาดฝันไว้

 4. ความโลภ การพนัน และการเก็งกำไรจากหุ้นเด็ด

นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบลงทุนในหุ้นยอดฮิต เพื่อซื้อมาขายเก็งกำไร และหวังผลตอบแทนที่สูงในระยะสั้นๆ ซึ่งมันก็เปรียบ “ตลาดหุ้นเหมือน Casino” ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบลงทุนกัน

 5. Home Bias : ลงทุนในประเทศตัวเอง

เป็นพฤติกรรมที่ชอบอยู่กับอะไรที่คุ้นเคยหรือรู้ดีอยู่แล้ว ไม่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zone ก็เปรียบได้กับการลงทุนแต่ในตลาดหุ้นไทย ไม่กล้าที่จะลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ

 6. Negativity Bias : การมองโลกในแง่ลบและกลัวการสูญเสีย

เป็นพฤติกรรมที่จดจำแต่ประสบการณ์เชิงลบมากกว่าประสบการณ์เชิงบวก เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 40 หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี 51-52 ทำให้นักลงทุนในช่วงนั้นรู้สึกเจ็บปวด และหลีกเลี่ยงการสูญเสียไม่ได้ จึงทำให้กลัวที่จะลงทุนในตลาดหุ้นในอนาคต ถึงแม้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจกลับมาเฟืองฟูแล้วก็ตาม

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป