หน้าหลัก > สาระน่ารู้วันนี้ > วิกฤตประกันสุขภาพเด็ก ⚠
วิกฤตประกันสุขภาพเด็ก ⚠
วิกฤตประกันสุขภาพเด็ก ⚠
19 Jun, 2024 / By finrwealthbuilder
Images/Blog/fu2LSDaK-วิกฤตประกันเด็ก.jpg

   คุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกเล็กจะมีประสบการณ์เรื่องลูกป่วย เป็นเรื่องปกติ หากลูกใครไม่ป่วยเลยน่าจะแทบไม่มีเลย อย่างน้อยต้องมีบ้างอาทิเช่น ไข้ขึ้น ตัวร้อน ไข้หวัด ยิ่งน้องๆที่เริ่มเข้าเรียนก็จะเริ่มป่วยบ่อยมากขึ้น เนื่องจากเด็กเล็กๆมาจากหลากหลายครอบครัว เด็กเล็กจะไม่รู้จักการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค การพัฒนาของเด็กจะเริ่มจากการหยิบจับ สัมผัส ทดลองเข้าปาก ชิม ดังนั้นจึงเป็นเหตุหลักๆที่เด็กเล็กๆรวมกลุ่มกันก็จะป่วยง่าย แล้วยิ่งมีช่วงที่เป็นโรคติดต่อก็จะติดกันทั้งชั้นเรียน บางโรงเรียนต้องปิดโรงเรียนหรือปิดชั้นเรียนเพื่อทำความสะอาด ให้นักเรียนพักรักษาตัวกันและลดการแพร่เชื่อโรค
   โรคฮิตที่เด็กๆมักจะติดมาจากการโรงเรียนกันก็จะมีอาทิเช่น
1. โรคมือ เท้า ปาก (Hand, foot and mouth disease) 
2. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
3. โรคเฮอร์แปงไจน่า (Herpangina)
4. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
5. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อแบคทีเรียไมโครพลาสม่า (Mycoplasma) 
   นอกจากนี้ยังมีโรคที่มักพบในเด็กเล็ก เช่น มะเร็ง หัวใจ หรือเป็นความผิดปกติของร่างกายหรออวัยวะตั้งแต่กำเนิด
   เห็นไหมว่าเด็กเล็กถึงอายุ 10ขวบจะมีโอกาสของการเจ็บป่วยและเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสูงกว่าช่วงวัยรุ่นที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่และแข็งแรงแล้ว ที่สำคัญเด็กเล็กไม่สามารถบอกความต้องการ หรือบอกอาการเจ็บป่วยของตัวเองได้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ดีที่สุดคือ ขอให้ถึงมือหมอหรือใกล้หมอไว้ก่อน
   ดังนั้นเด็กเล็กจะมีโอกาสเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลถึงสูงมาก เบี้ยประกันของเด็กจึงมีราคาสูงเช่นเดียวกัน ถึงจะมีเบี้ยประกันราคาสูงแล้วบริษัทประกันก็ยังคงขาดทุนในแบบประกันของเด็กทุกบริษัท เป็นเหตุที่ว่าบริษัทหลายที่จะเริ่มเพิ่มเบี้ยประกันสุขภาพเพื่อจะเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาล หรือบางที่ยกเลิกสัญญาประกันสุขภาพของเด็กเลย ทำให้ผู้ปกครองหลายท่านต่างตกใจกันรีบหาประกันสุขภาพใหม่ให้ลูกกัน หากโชคดียังไม่มีโรคประจำตัวหรือเป็นโรคที่บริษัทประกันยกเว้นไม่คุ้มครองก็ดีไป หากเป็นโรคบางอย่างแล้ว บริษัทประกันอื่นอาจจะไม่รับแล้วก็ได้
แล้วจะทำอย่างไรดี เรามีข้อแนะนำดีๆคือ
 1. ควรเลือกซื้อประกันกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ ไม่มองแค่เบี้ยประกันที่มีราคาถูกอย่างเดียว
 2. เลือกตัวแทนหรือ AGENTที่มีคุณภาพ มีความเป็นมืออาชีพที่สามารถช่วยดูแลเมื่อเกิดปัญหา
 3. ดูประวัติของบริษัทที่เคยยกเลิกสัญญา หากมีประวัติเคยยกเลิก เวลาพอร์ตหรือแบบประกันนั้นขาดทุนก็มีโอกาสเท! เราด้วยเช่นกัน
 4. เป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีสัญญาระยะยาว หากเลือกประกันวินาศภัยจะเป็นสัญญาระยะสั้น ปีต่อปี มีโอกาสที่บริษัทประกันไม่ต่อสัญญา
ดังนั้นถ้าคุณพ่อ คุณแม่ มีประกันสุขภาพที่ดีไว้อยู่แล้ว ควรเก็บไว้เพราะหากเราลืมชำระเบี้ยประกันหรือสัญญาขาดอายุอาจจะมีปัญหาในการรับประกันต่อเนื่อง 
ถ้ายังไม่มีแนะนำให้รีบซื้อและเลือกจากคำแนะนำด้านบน เพราะตอนนี้บริษัทประกันหลายๆที่เริ่มจะยกเลิกการขายประกันสุขภาพเด็ก(ลูกค้าเก่ายังคงต่อสัญญาปกติ)จะหาที่ที่จะขายยากขึ้น 
   ประกันสุขภาพเด็กในอนาคตจะเป็นแบบ Co-Pay คือร่วมจ่าย หากต้องเข้าพัก รักษาตัวในโรงพยาบาลผู้ปกครองต้องร่วมจ่ายค่าใช้จ่ายร่วมกับบริษัทประกันด้วย เช่นค่ารักษาพยาบาล 50,000บาท ผู้ปกครองต้องร่วมจ่าย 20,000บาท บริษัทประกันจ่ายส่วนที่เหลือ30,000 ทำให้เราโอนย้ายความเสี่ยงและบริหารค่าใช้จ่ายได้ยากขึ้นเนื่องจากเด็กเล็กบางครั้งบางช่วงเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก
ดังนั้นประกันสุขภาพเป็นทั้งวิกฤตของบริษัทประกันและผู้ปกครองที่ต้องเจอ

 

👉🏻อยากปรึกษาการวางแผนการเงินหรืออยากเป็นที่ปรึกษาทางการเงินกดตามลิ้งค์ได้เลยค่าา 👇🏻
แอดไลน์ https://lin.ee/Pcz69g0
https://www.finrwealthbuilder.com/ หรือ 065-9138620

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป