Shopaholic
Shopaholic
27 Mar, 2024 / By finrwealthbuilder
Images/Blog/96sEzRAb-Shopaholic.jpg

คือกลุ่มคนที่เสพติดการShopping เห็นอะไรก็อยากได้อยากซื้อ

***ไม่ว่าจะเทศกาลไหนก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย***

ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นจากโปรโมชั่นไหนก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย 11.11 ปีใหม่ วาเลนไทน์ ฯลฯ หรือเห็นป้าย SALE จะต้องมีส่วนร่วมด้วย

จากการที่ซื้อของมากก็ส่งผลต่อเงินในกระเป๋าและงบการเงินของเราแน่นอน อีกทั้งปัจจุบันการซื้อของนั้นง่ายดายทุกอย่างอยู่ที่ปลายนิ้วมีAppicationต่างๆรอให้เรากดได้เสมอไม่ว่าเวลาใด บัตรเครดิตก็รูดได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน แต่เมื่อถึงกำหนดชำระก็มึนแล้วมีอาการหน้ามืดกันเลยทีเดียว

หลายๆคนเป็นโรคเสพติดการShopping จากภาวะที่เป็นความผิดปกติทางจิตอย่างนึง ตามมาด้วยอาการหลบๆซ่อนๆ เริ่มหาช่องทางให้คนอื่นไม่รู้ว่าเราแอบซื้อของมา ยิ่งทำก็จะยิ่งเป็นมากขึ้นเป็นวงจรที่หมุนไปหมุนมาอยู่อย่างนี้จนกลายเป็นหนี้สินรุมเร้า ยิ่งแก้ช้ายิ่งทำให้ปัญหาแก้ยากขึ้น ยิ่งคนมีรายได้สูงก็จะมีหนี้สินสูงเป็นเงาตามตัวเลยเพราะมีเครดิตดี มีบัตรเครดิตหลายใบยิ่งทำให้มีโอกาสการเป็นหนี้ได้ง่ายกว่า ที่สำคัญเป็นหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เลย

การซื้อของหรือ Shopping ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย เป็นความสุขที่เราจะได้ของนั้นๆมา ไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็มีความสุขในการซื้อของและได้ของที่อยากได้เหมือนกัน ดังนั้นเรามาหาวิธีที่ทำให้มีความสุขในการซื้อของและไม่กระทบกับระบบการเงินของเราด้วยก็เป็นสิ่งที่ดีที่ไม่ทำให้มีภาระทางการเงินตามมาแล้วกลายเป็นปัญหาหนี้สินด้วย

เริ่มต้นจากการที่เราแบ่งแยกเงินที่จะใช้ตามวัตถุประสงค์ก่อน เช่น

* เงินเก็บ/เงินออม ที่เป็นสิ่งสำคัญแรกๆที่ต้องวางแผน

* เงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

* เงินค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆอาทิเช่น เงินกู้ กยศ. ผ่อนบ้าน ผ่อนรถเป็นต้น

* เงินที่ต้องจัดสรรเพื่อการดูแล เช่น คุณพ่อ คุณแม่ บุตร

หลังจากที่จัดสรรเงินเรียบร้อยก็ตั้งเป็นงบที่จะซื้อของที่อยากซื้อ หรือเดือนนี้ไม่ได้ซื้อก็ทบกลับไปของเดือนถัดไปเพื่อที่จะได้ของชิ้นใหญ่ขึ้นหรือของที่มีราคาสูงขึ้น

ก่อนที่จะซื้อของต่างๆให้ลองทบทวนดูก่อนที่จะซื้อด้วย มีหลักให้ลองนำไปใช้ดูว่า ของเหล่านั้นเป็นของที่

1. อยากได้จริงๆเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้จริงหรือไม่

2. หาของทนแทนได้ไหม ในของประเภทเดียวกัน หรือของประเภทเดียวกันแต่ราคาย่อมเยาว์กว่า

3. ของที่มีอยู่สามารถปรับนำกลับมาใช้ใหม่ได้ไหม บางท่านมีไอเดียเก๋ๆที่นำของที่มีอยู่มาเสริมตกแต่งให้ดูชิ๊กๆคลูๆได้

4. ของนั้นมีความคงทนสามารถใช้ได้นาน คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปไหม อย่างเช่น คนเยอรมันจะสอนลูกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของถูกแต่ซื้อของที่มีคุณภาพที่ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย การใช้งานได้นานถึงราคาสูงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า

เห็นไหมว่าถ้าเราจัดสรรการเงิน ตั้งงบที่จะซื้อสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการเราได้การซื้อของที่มีราคาหรือให้รางวัลกับตัวเองด้วยการShopping ก็ไม่ได้ผิดแต่ก่อนซื้อสินค้าต้องมีสติให้มาก ไม่เช่นนั้นเราจะได้ของที่บางทีก็ไม่รู้จะซื้อมาทำไมตอนเห็นก็อยากได้ แต่กลับมาเป็น”ขยะ”ในบ้าน จะทิ้งก็เสียดาย

แล้วยังมีอีกวิธีที่ทำได้คือการส่งต่อของที่เรามีแล้วไม่ได้ใช้หรือเราไม่ใช้แล้วให้กับองค์กรการกุศลต่างๆหรือตอนนี้จะมีของที่เราไม่ใช้แล้วนำไปขายต่อผ่านช่องทางต่างๆให้กับคนที่ต้องการใช้ต่อได้ ก็จะได้เงินกลับมาด้วย เห็นไหมว่าการซื้อของนอกจากจะตอบสนองความต้องการแล้วไม่ทำให้ระบบการเงินเราเสียไปด้วยนอกจากมีความสุขแล้วไม่เป็นหนี้เกินตัวเราอีก

👉🏻อยากปรึกษาการวางแผนการเงินหรืออยากเป็นที่ปรึกษาทางการเงินกดตามลิ้งค์ได้เลยค่าา 👇🏻

แอดไลน์ https://lin.ee/Pcz69g0

https://www.finrwealthbuilder.com/ หรือ 02-0652550

#ที่ปรึกษาทางการเงิน #ที่ปรึกษาการเงิน #นักวางแผนทางการเงิน #วางแผนภาษี #นักวางแผนการเงิน #finrweath #finr

#ชีวิตมั่นคง #ชีวิตมั่งคั่ง #FitFinFund

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป